สัญญาทองคำในตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม โดยสัญญาทองคำในแดนบวกติดต่อกันเป็นที่ 4 เนื่องจากตลาดยังคงได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ นักลงทุนมองหาข้อมูลดัชนี PCE ที่เผยแพร่โดยสหรัฐฯ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยของเฟด
สัญญาทองคำในตลาด COMEX (Commodity Exchange) สำหรับการส่งมอบในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 25.70 ดอลลาร์หรือ 1.16% เพื่อปิดที่ 2238.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะเงินสำหรับการส่งมอบในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.64 เซนต์หรือ 0.66% เพื่อปิดที่ 24.916 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สัญญาพลาตินัมสำหรับการส่งมอบในเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 11.40 ดอลลาร์หรือ 1.25% เพื่อปิดที่ 921.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนสัญญาพัลลาเดียมสำหรับการส่งมอบในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 30.50 ดอลลาร์หรือ 3.08% เพื่อปิดที่ 1,021.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ตามคาด และคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเฟดยังคงส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจำนวน 3 ครั้งในปี 2567
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ของสหรัฐในวันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากดัชนี PCE เป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.4% เช่นเดียวกันในเดือนมกราคม
นอกจากนี้คาดว่า ดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนมกราคม
