Home » การเพิ่มคลังประเทศโดยไม่กระทบเครดิตเรทติ้งเป็นข่าวดีแน่นอน

การเพิ่มความขาดดุลงบในปีงบประมาณ 2568 เพื่อใช้ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนั้นไม่มีปัญหาตามที่นายกฤษฎา กล่าวไว้ เนื่องจากฐานะการคลังของประเทศในปัจจุบันมีความแข็งแกร่ง โดยมีทุนสำรองระหว่างประเทศสูงถึง 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และเงินคงคลังอยู่ในระดับสูงที่ 5-6 แสนล้านบาท

อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ดี นอกจากนี้ หนี้สาธารณะในปีงบประมาณ 2568 ยังคงอยู่ในระดับที่ยังไม่เกินขีดจำกัดของกรอบวินัยการเงินการคลัง ที่ไม่เกิน 70% ต่อจีดีพี และมีการบริหารจัดการหนี้สาธารณะให้มีการปรับลดลงต่อเนื่อง

นอกจากนี้ นายกฤษฎา ได้กล่าวถึงการปฏิรูปโครงสร้างภาษีเพื่อเพิ่มรายได้ โดยรัฐบาลได้ให้นโยบายชัดเจนในการปรับลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น พร้อมทั้งการปรับเพิ่มภาษีตามภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปโครงสร้างภาษีควรจะดำเนินตามภาวะเศรษฐกิจและจำเป็นต้องค่อยๆ ดำเนินการให้สอดคล้องกับเป้าหมายและเป้าหมายที่กำหนดไว้ในเอกสารงบประมาณ

การเพิ่มการขาดดุลงบไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการประเมินเครดิตเรตติ้งของประเทศไทย เนื่องจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือจะพิจารณาวัตถุประสงค์และการใช้เงินที่ได้จากการขาดดุลเพิ่มไปใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจว่ามีประโยชน์อย่างไร และหากมีการบริหารจัดการให้มีการคืนเงินอย่างชัดเจน การเพิ่มการขาดดุลงบอาจจะไม่มีผลกระทบอย่างแน่นอน

นายลวรณ ปลัดกระทรวงการคลัง เห็นด้วยว่าการดูแลเศรษฐกิจในระยะยาวมีความสำคัญมากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น และการปฏิรูปโครงสร้างภาษีควรจะดำเนินตามภาวะเศรษฐกิจและระยะเวลาที่เหมาะสม นอกจากนี้ เขายังชี้ให้เห็นว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้มีแค่มุมของระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาถึงมุมของระยะยาวเช่นกัน

ในทางกลับกัน การอุดหนุนราคาน้ำมันควรให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแลก่อนเพราะการรักษารายได้มีความสำคัญ และต้องการให้การจัดเก็บรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในเอกสารงบประมาณ

ดังนั้น แม้จะมีการเพิ่มการขาดดุลงบในระยะสั้นก็ยังมีความสำคัญในการดูแลและปรับปรุงเศรษฐกิจในระยะยาวเพื่อความยั่งยืนและการเจริญเติบโตที่มั่นคงของประเทศในอนาคต